ฮือฮาชาวบ้านนาเหนือดอนจานกาฬสินธุ์ นำน้ำแดงดอกไม้เลขธูปมงคลกราบไหว้ขอพรต้นไม้คูณอายุประมาณ 50 ปีที่แตกกิ่งแทงทะลุดินเป็นสีทองทั้งก้านและใบโดยเข้าฝันชาวบ้านให้เรียกว่าแม่ย่า 4 นาง ให้โชคสาวถูกรางวัล 3 งวดติด แม่บนบานศาลกล่าวให้ลูกสาวสอบติดเป็นข้าราชการก็สมหวังดั่งปาฏิหาริย์
วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ที่บ้านนาเหนือ ม. 6 ต.ม่วงนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ พบชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเลขมงคลกราบไหว้ขอพรต้นคูณแปลกประหลาดที่ถูกตัดเหลือแต่ตอไม้อายุกว่า 50 ปี แทงยอดทะลุดินเป็นสีทองทั้งก้านและใบ ซึ่งแต่ก่อนบริเวณนั้นเป็นร้านขายไก่ทอดที่เจ้าของไม่ได้ทำการเปิดร้านมานานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีตอต้นไม้คูณอยู่ตรงบริเวณกลางร้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พบกิ่งก้านที่แทงทะลุดินออกกิ่งก้านเป็นสีทอง ชาวบ้านพบเป็นเหตุอัศจรรย์มีผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุ 97 ปีก็ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติครั้งแรกของหมู่บ้านก็ว่าได้
จากนั้นชาวบ้านที่มีความเชื่อในแนวทางเดียวกันได้รวมกันนำธูปเลขมงคลมาขอพรขอโชคลาภบนบานศาลกว่ากับเจ้าแม่ 4 นาง ผลปรากฏว่ามีสาวผู้โชคดีถูกรางวัล 3 งวดติดและมีแม่มาขอพรให้ลูกสาวสอบติดมีชื่อเข้ารับราชการเป็นครูตามความฝันของครอบครัวในต้นเดือนหน้านี้ ซึ่งวันนี้มีตัวแทนชาวบ้านได้จุดธูปเลขมงคลจากภาพพบว่า เป็นเลข
น.ส.รุ่งกานต์ นาคมนต์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 12/5 ม.5 บ.นาน้อย ต.ม่วงนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้ยินจากเพื่อนบ้านว่าพบต้นคูณที่ถูกตัดเหลือแต่ตอไม้ที่แตกกิ่งออกจากโคนต้นประมาณ 20 เซนติเมตรตนเห็นแล้วรู้สึกถึงความแปลกประหลาดที่กิ่งก้านไม้ไม่ขึ้นที่ตอไม้แต่มาแทงยอดทะลุดินขึ้นมาเอง ซึ่งเกิดมาก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต ชาวบ้านได้รวมกันจุดธูปกราบไหว้ขอโชคลาภตามประเพณีท้องถิ่นของคนอีสานที่พบสิ่งที่แปลกประหลาดเหนือธรรมชาติเกิดความอัศจรรย์ต้องมากราบไหว้ ตนก็เป็นอีกคนที่ได้จุดธูปและนำธูปที่จุดแล้วปรากฏขึ้นเป็นตัวเลขมาด้วย
จากนั้นขณะนอนหลับคืนนั้นตนได้ฝันว่า มีผู้หญิง 4 คนแต่งชุดไทยสวยงามเข้ามาพูดคุยด้วยโดยหญิงทั้ง 4 นางให้ตนเรียกว่า แม่ย่า 4 นาง ซึ่งแม่ย่า 4 นางบอกกับตนว่า ที่มาวันนี้คืออยากมาให้โชคลาภกับตน จากนั้นตนก็นำเลขธูปที่ได้ไปเสี่ยงโชคในวันที่ 15 กรกฎาคม 66 ปรากฏว่าเลขท้ายสองตัวออก 62 ซึ่งตรงกับหมายเลขลอตเตอรี่ที่ตนซื้อเก็บไว้พอดีซึ่งตนก็นำผลไม้น้ำแดงน้ำเปล่ามาไหว้ขอบพระคุณแม่ย่า 4 นางหลังจากได้รับรางวัล และงวดวันที่ 31 กรกฎาคม 66 ได้มาจุดธูปเลขขอโชคลาภอีกปรากฏว่าถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวตรงอีก ล่าสุดมางวดวันที่ 16 สิงหาคม 2566 เลขท้ายสองตัวออก 67 ตนก็ซื้อรางวัลลอตเตอรี่ไว้อีกถูกอีกได้รับรางวัล 3 งวดติดซึ่งตลอดชีวิตไม่เคยถูกรางวัลติดต่อกันแบบนี้มาก่อน ทำให้เชื่อว่าโชคที่ได้รับจากการถูกรางวัลคงมาจากอภินิหารของแม่ย่า 4 นางแน่นอน แต่สิ่งที่แปลกอีกอย่างหนึ่งเวลาที่มากราบไหว้ที่นี้แล้วตนกลับบ้านพักไปรู้สึกอ่อนเพลียแบบบอกไม่ถูกแต่ที่เป็นแบบนั้นอาจเกิดความสภาพอากาศก็เป็นได้
น.ส.รุ่งกานต์ นาคมนต์กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งงวดนี้ตนได้เลขธูปมงคล เป็นหมายเลข 9 6 7 และถ้าท่านใดที่มีความเชื่อในด้านนี้จะมากราบไหว้บูชาของโชคต่อแม่ย่า 4 นางไม่ต้องนำอาหารมาให้แต่ให้นำของหวานหรือผลไม้ ถ้าสะดวกก็นำน้ำแดงและน้ำเปล่ามาก็พอ แต่ขอกล่าวอีกว่าเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดได้ฝันว่า แม่ย่า 4 นางจะขออยู่กับพวกตนชาวบ้านแค่ 9 วันเท่านั้นซึ่งก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันว่าทำไมถึงฝันได้แบบนั้นหรืออาจจะเป็นการใบ้ให้ตนนำไปเสี่ยงโชคก็เป็นได้
ด้านนางวรรณา พานวงษ์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 168 บ.นาเหนือ ต.ม่วงนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนได้มาจุดธูปกราบไหว้ถวายน้ำแดงและน้ำเปล่า เพื่อมาขอพรขอโชคลาภบนบานศาลกล่าวกับแม่ย่า 4 นางหรือ กิ่งก้านของต้นคูณที่ออกใบแทงทะลุดินเป็นสีทองให้กับลูกสาวที่มีความต้องการอยากรับข้าราชการเป็นครูให้สอบติดเป็นครูตามความฝัน จากนั้นลูกสาวตนมีรายชื่อเป็นผู้สอบผ่านข้อเขียนและเข้าสอบสัมภาษณ์ผ่านฉลุยทั้งหมด จากนั้นทางเขตพื้นที่การประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 1 ประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่านเข้ารับราชการเป็นครู ปรากฏ ว่ามีชื่อของลูกสาวตนตามประกาศด้วย สร้างความดีใจให้กับลูกสาวของตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก ซึ่งลูกสาวจะเข้าไปรายงานตัวกับผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านม่วงซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้านต่อไป หลังจากรายงานตัวเข้ารับราชการเสร็จสิ้นจะทำการสู่ขวัญตามประเพณีของอีสานและ จะซื้อชุดไทยสวยๆมาไหว้ขอบพระคุณกับเจ้าแม่ 4 นางที่ผลของการบนบานศาลกล่าวสมหวังเกิดขึ้นจริง
“อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาตนเสี่ยงโชคถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวคือเลข 67 อีกด้วยตนเชื่อว่าเป็นเพราะการมากราบไหว้บนบานศาลกล่าวกับแม่ย่า 4 นางจึงทำให้มีโชคลาภและขอสิ่งใดก็สำเร็จตามความปรารถนาแต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในความเชื่อแต่ ตนเชื่อจริงๆว่าแม่ย่า 4 นางศักดิ์สิทธิ์จริง” นางวรรณา พานวงษ์กล่าวฯ